วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ตอนที่ 8 เสาพฤกษาชาตา

7 องค์ประกอบของพฤกษาชาตา
ดาว 7 กิ่งก้าน
ดาว 6 เปลือก-ผิว
ดาว 5 ผล
......................
ดาว 4 ดอก
ดาว 3 ใบ
ดาว 2 แก่นในต้น
ดาว 1 รากแก้ว


คนโบราณมีความฉลาด เปรียบดวงดาว หรือชีวิตเหมือนต้นไม้ ทำให้เข้าใจง่ายดีมาก

หากอ้างถึงเลข 7 ดาวพระเสาร์

ดาวเสาร์ เลข 7 เป็นดาวใหญ่ ดาวประธาน จัดเป็นประเภท ดาวบาปพระเคราะห์ มักให้โทษ เกิดความทุกข์ทางใจมาก และจะมีภาระต้องแบกหาม และจงอย่าคิดโลภมาก ทุกคนย่อมมีความหวัง แต่ดาว 7 มันเดินอุ้ยอ้ายล่าช้าไม่ทันใจ กว่าจะสำเร็จแทบเวียนหัวตาย หากไม่ระวัง? จะต้องมีภาระหนี้สิน การผูกพัน ต่อเนื่องรุงรังพันเต ผู้ฉลาดเมื่อเจอเอาดาว 7 ช่วงชีวิตนั้นๆ พยายามวิ่งหนีปัญหา? ดีกว่าเดินรี่เข้าไปให้เหตุการณ์มันผูกมัดเราเลย ยามที่ดาวเลข 7 ส่งผลให้คุณกับเรา ก็ย่อมมี เช่น ได้รับการยกย่องว่าเราสามารถ เก่ง แต่อย่าบ้ายอก็แล้วกัน ต้องควักกระเป๋าจ่าย หากแนวชาตาสัมพันธ์กับดาวอะไร? ต้องหาทางออกง่าย คือ เดินทางไปที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ไต่ฮงกง ไปกราบบูชาเพื่อไล่ภูตผีปีศาจที่มันหลอกหลอนเรา ให้ห่างพ้นไป อำนาจดาว 7 มันมารยากับชีวิตเรา คือ เราอาจจะ “หลงในภาพ หลงอำนาจ” จึงเตือนใจไว้ว่า เลข 7 พฤกษาชาตาต้นไม้ หากส่งผลเราก็สามารถปกครองบริวารได้ดี หรือช่วงนั้นอาจจะได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ควบคุมบริวาร

ในทาง “มุมกลับ” หากมีผลเสียอาจจะ “หลุดจากอำนาจก็ได้?” และเรามองใน “ดวงราศีจักรวงกลม” มองที่ราศีมังกรข้างในคือดาว 7 เป็นเกษตร เน้นทายว่า ดาว 7 ทุกคนเมื่อมาเกี่ยวข้อง อย่าหวังว่าจะมีใคร? มาอุปถัมป์เราเลย เรานั่นแหละจะต้องสร้างตัวเองขึ้นมา แม้จะล้มลุกคลุกคลานเปรียบเหมือนตัวเลียงผา ทะเยอทะยานขึ้นปีนเขาไปกินหญ้าอ่อนสะอาด และพลัดตกลงมา ก็เลียแผลจนหายดี จากนั้นก็ไม่เข็ด ต้องปีนป่าย ด้วยเหตุนี้นิสัยดาว 7 จึงมีความทะเยอทะยาน ไม่มีใครจะมาห้ามได้เลย บางทีคนอื่นก็หาว่าเรา ดาว 7 ดื้อด้าน แท้จริงเรามีเหตุผลเฉพาะตัว เฉพาะทางต่างหาก แต่ไม่เผย และมีความ “หยิ่งในเกียรติว่าเราแน่เสมอ? ก็ว่าไป”

หากอ้างถึงเลข 6 ดาวพระศุกร์

หากจะนับระยะทางจากพื้นโลก ดาวพระศุกร์ จะอยู่ห่างจากโลกไม่ไกลมากนัก ดาวที่ไกลที่สุด คือ เลข 7 ดาวพระเสาร์ เราเปรียบดาวพระศุกร์ มีลักษณะเป็น “ผิวของต้นไม้ หรือเปลือกของต้นไม้” ที่ห่อหุ้มต้นไม้ ต้นไม้ประเภทหนึ่งเขาชอบมองที่ผิว หรือเปลือกต้นไม้และยอมรับว่าสวยงาม เช่น “ต้นตะโก” เป็นต้น เปลือกต้นไม้จะได้รับลมก่อน และหากจะมีเหตุร้ายกับต้นไม้ ก็จะต้องโดนผิวต้นไม้ก่อน แม้จะถูกรังแกจากมด แมลง มอด ก็จะเจาะกินที่เปลือกต้นไม้ก่อน ถือว่าได้รับการกระทบ หรือรับอันตรายก่อน ด้วยเหตุนี้เราจึงทาย คนเกิดวันศุกร์ ว่ารักความสบาย รักความสวยงาม ง่ายต่อการสัมผัส สิ่งนั้นเรามักทายเลข 6 ชอบการท่องเที่ยว เสาะแสวงหาสิ่งที่ถูกตา ถูกใจในถิ่นแปลกๆ หรือชอบการเคลื่อนไหวเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศ บางคนวันหนึ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ความสวยงามของดาวศุกร์ อาจจะเลยไปถึงชอบเปลี่ยนรองเท้าถุงน่องด้วยนะ ดาวพระศุกร์ บางทีก็ชอบสิ่งสวยงาม เครื่องประดับ เพื่อวัดฐานะความยากดีมีจน หลายราย ไม่ยอมกิน อดออมซื้อทองมาใส่ให้โก้เก๋ก็ว่าไป ดาวพระศุกร์ จึงแปลว่า ฐานะการเงิน หรือกองเงินกองทอง เศรษฐี ดาว 6 หากเด่น แปลว่ามีความคล่องทางการเงิน ใช้จ่ายอย่างสุขสบายใจ ดาวศุกร์ เปลือกต้นไม้ ทายว่า ชอบทำสิ่งแปลกใหม่ มีความเด่นกับตนเอง และดาวศุกร์ เด่นดี อาจจะทายว่าชอบทำงานทางการเงิน การธนาคาร เงินทุนหลักทรัพย์ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ขายเสื้อผ้า งานท่องเที่ยว หากจะวัดทางอารมณ์ใจ ทายว่าไม่หนักแน่นนัก แล้วแต่สิ่งแวดล้อม อาจจะทำให้เปลี่ยนแนวทางได้ไม่ยากเลย ทั้งนี้เราประกอบกับกฎต่างๆ และขาดความอดทน บางทีทำงานเก่าก็ดีอยู่แล้ว แต่พอเห็นภาพงานใหม่ดีใจ ก็กระโจนเปลี่ยนเอาง่ายๆ

หากอ้างถึงเลข 5 ดาวพระพฤหัส

ดาว 5 จะอยู่ห่างจากโลกเหมือนเป็นอันดับสอง รองจากดาว 7 เช่น ดาว 7 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 2 ปีครึ่ง หรือ 30 เดือน แต่ดาว 5 ห่างเพียง 1 ปีหรือ 12 เดือนโดยประมาณ นักโหราศาสตร์ทางดวงวงกลมมักชอบเพราะทายเหตุการณ์ปีต่อปีได้ โบราณยกย่องให้ดาว 5 เป็นดาวครู หรือพระฤษี มีพื้นฐาน “ธาตุดินแข็ง” เพราะดาว 2 ธาตุดินชุ่มชื้นกว่ามาก

นักพยากรณ์เมื่อพบดาวพระพฤหัส เลข 5 ในการทายชาตาแต่ละครั้งจะงง สงสัย ไม่รู้จะขึ้นต้นลงท้ายท่าไหน? ดี หากผิดพลาดจะหงายหลัง แปลว่าทายไม่ถูกเป้าเหตุการณ์ โหราพม่ามองลึก ดาว 5 มี ดาวอาทิตย์เป็นแกนหลักเรือนผล (ขึ้นต้น) และไม่ปรากฏว่าจะทายดาว 5 ว่าจะได้ลาภ ได้เงินตรงไหน? ไม่มีกล่าวไว้ ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ควรจะไปปักใจว่าเลข 5 ทายว่าได้โชคลาภทางการเงินเลย แต่กลับเป็นโชคทาง “เกียรติยศ ชื่อเสียง ความภาคภูมิใจในความสำเร็จ ที่เขามีเหนือผู้อื่นในสังคมมากๆ และเราแอบมองในต้นเสาพฤหัส นอกจากจะมีเลข 1 อยู่เรือนขึ้นต้น ผลเป็นแกนหลักแล้ว ก็ยังมี ดาว 3 อังคารแอบแฝงอยู่บนยอดเสาต้นไม้สง่างาม เราจึงพลิกผันอันถูกหลัก คือ ดาว 5 มีวิญญาณเป็นนักต่อสู้ที่สามารถจริงจังพร้อมสู้ทุกรูปแบบ?

เลข 5 พฤหัสเป็นนักสู้ที่รักเกียรติควบคู่กับสังคมจึงพบความเด่นในชีวิตโดยไม่ยากเลย แถมมีคุณธรรมเมตตาธรรมต่อผู้อื่น? ใช้ดวงตามองคนแบบนักสู้ จากแววตาของเราที่พุ่งไปสัมผัสเท่ากับส่งพลังเมตตาอย่างมหัศจรรย์ หรือดวงตาเรามีอำนาจสูง อย่าหลบสายตา ดาวพฤหัสเรามีอังคารอยู่หัวเสาแฝงเด่นจงใช้แววตา สายตาพิชิตฝ่ายตรงข้ามเพื่อชนะ รับรองผลมากจริงๆ เราสามารถเอาชนะผู้อื่น และชนะแผ่นดินได้ เช่น แม้เจ้าที่เจ้าทางยังทรงเมตตาเราอยู่เย็นเป็นสุขดังใจหวังนะผู้เรียน?

หากอ้างถึงเลข 4 ดาวพระพุธ

ตำแหน่งของดาว 4 อยู่เรือนติดดาน หมายถึง “ดอก” ซึ่งต่อมาจากเลข 5 คือ ผล เช่นผลไม้ที่รับประทานได้ และ ดาวเลข 4 คือ ดอก ที่แสดงถึงความเจริญสมบูรณ์ของต้นไม้นั้นๆ สมมุติว่าผู้เรียนปลูกต้นไม้เพื่อกินได้ ยามที่ดอกบานเต็มต้นผู้เรียนจะดีใจไหม?ล่ะ ฉะนั้นเจ้าของจะต้องบำรุงอย่าให้ดอกร่วง หรือถูกแมลงมาไชชอน ดอกไม้เลข 4 เสมือนเป็นจมูกของคนเราที่ใช้หายใจ หรือสูดอากาศไปเลี้ยงลำต้นหรือรับน้ำค้าง ใบชุ่มต้นไม้ก็จะงอกงามยิ่งๆ ขึ้น

ในทางปฏิบัติทางดวงชาตาที่เกี่ยวข้องกับเลข 4 เมื่อใด? ผู้เรียนก็จะต้องช่วยตัวเอง หาที่นอนให้สบาย ปลอดโปร่งกว่าเก่า ไม่ควรแอบอยู่ในสถานที่อับเฉานะ และหมั่นอาบน้ำ บางรายขนาดต้องบังคับให้เขาไปเที่ยวทะเล ลุยน้ำทะเล เลข 4 คือ ทะเล อย่าง อ.ดวงสุริยะเนตร ในปี พ.ศ. 2544 นี้ ดาวเลข 4 เด่นอยู่หัวเสาภูมิพระราหูและเลข 4 เป็นราชามหาบท เรารู้ดีว่าชาตาเราจะเด่นทางวิชาการ หรือทำอาชีพพยากรณ์ หรือ “สอน” จะเด่นเจริญมาก เลข 4 เรากำหนดท้าวจัตุโลกบาล และเราใช้มะนาวหรือส้มบูชาเทพ เลข 4 คือส้ม มะนาว เราเองไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลก็ไม่จำเป็นนัก เราใช้ดื่มน้ำส้ม มะนาว วันละหลายแก้วสดชื่นดีแท้ ดาว 4 จะหมายถึงโครงการ และเราใช้เลขขีดเขียนตำราขึ้นมาอย่างทุกวันนี้ เพราะอำนาจดาว 4 จึงทำให้เราขยันเขียนตำราได้ดี และควรระวังสุขภาพด้วย เกี่ยวกับการหายใจ ภูมิแพ้ หรือผิวหนังตามลักษณะดาวเลข 4

หากอ้างอิงถึงเลข 3 ดาวพระอังคาร

สำหรับดาว 4 และ 3 หรือ ดาว 6 ประเภทนี้จะอยู่ใกล้โลกเรา และมีอัตราโคจรรอบโลกประมาณ 18 เดือน สำหรับดาว 3 อังคารมีแง่มุมในเชิงพยากรณ์หลากหลาย หากเน้นคุณค่าจริงๆ แล้วเราจะแปลถึงความสำเร็จ โชคลาภ และต้นไม้จะหมายถึงใบไม้ เราจะสังเกตุลักษณะของใบไม้มักอ่อนไหวเมื่อต้องแรงลม และมีประโยชน์ต่อต้นไม้ ช่วยระบายอากาศเข้าออก และใบไม้จะไม่หยุดนิ่ง สุดแล้วแต่มีลมพัด เราจึงทายดาวเลข 3 ว่ามักหวั่นไหว หรือหูเบาเชื่อคนง่ายๆ เกินไป

ดาว 3 เป็นดาวนักสู้ หรือมีพลังเข้มแข็งกับดวงชาตาหรือกับผู้นั้น และเราจะขยายส่วนลึกดาวอังคารเลข 3 อีกมุมหนึ่ง พูดอย่างไพเราะ ก็คือ มีไหวพริบปฏิภาณดี หากพูดแบบไม่เพราะก็ว่ามีเล่ห์เหลี่ยมดี หรือจะเอาอย่างไร? ก็ตาม ขอให้เอาตัวรอดก็แล้วกัน ก็แล้วแต่ผู้เรียนจะตั้งชื่อเอา พูดตรงๆ คือ ดาว 3 มีแววฉลาดผสมเล่ห์เหลี่ยมชนิดรอดตายธรรมชาติของดาวแต่ละดวงนั้น ย่อมมีเล่ห์เหลี่ยมด้วยกันทุกดวง อย่างเช่น ดาว 4 ก็มีเล่ห์เหลี่ยมเชิงเจรจาพาที พูดเก่งจนหนีปัญหา? ให้หลุดพ้นได้ หรือดาว 5 ก็มีเล่ห์เหลี่ยมด้วย ซ่อนความรู้สึกโทสะเอาไว้ข้างใน แสร้งอมยิ้มเอาตัวรอดได้ แม้แต่ดาว 7 ก็มีเล่ห์เหลี่ยมได้ไม่แพ้ดาวอื่น เช่น ยามที่โกรธเคืองก็สำรวมกิริยาอาการ วางทีท่า ไม่หวั่นไหวในทีท่าสง่างาม จนทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดเกรงขามขึ้นมาได้

ส่วนดาว 6 ก็ไม่มีอะไร? มาก อันเล่ห์เหลี่ยมก็คือ ทำกิริยาอ่อนช้อยเอาไว้ และรีบเดินหนีห่างไปทันทีเอาตัวรอดได้

หากอ้างอิงถึงเลข 2 ดาวพระจันทร์


ตามหลัก “อังคะวิชาธาตุ” ดาวพระจันทร์ เลข 2 จะอยู่ใกล้โลกที่สุด ประเภท “ดาวศุภเคราะห์ ให้คุณมากกว่าให้โทษ” ฉะนั้นดาวประเภทศุภเคราะห์ทุกดาว คือ 2 – 4 – 6 อยู่ในตระกูลศุภเคราะห์ที่ต้องกล่าวว่าให้ “คุณมากกว่าให้โทษ” ก็ตามย่อมแสดงว่า “ยังมีส่วนให้โทษบ้าง? ไม่มากก็น้อย” นี่คือ หลักของการจะเป็น “หมอดูที่ดี” หรือนักพยากรณ์ที่รักเหตุผลเชิงวิชาการ จำเป็นต้องเรียนรู้ลีลาลักษณะหรือบุคคลิกภาพของดาวแต่ละองค์ให้ขึ้นใจ ดาว 2 พระจันทร์ แสงจันทร์ย่อมปรากฏในตอนค่ำ เราแปลว่าในยามแดดร่มลมตก เราอาจจะปล่อยอารมณ์ไปสบายๆ จึงแปลความว่า หากมีดาว 2 มาเกี่ยวข้องในทาง “ดูหมอ” กฎอะไร? ก็ได้ เราควรวางตัว วางใจให้สงบในอารมณ์ อย่าวู่วามหรือดิ้นรน หรือวิตกกังวลเด็ดขาด เมื่อเราทำใจให้สบาย มันก็จริงนะ เราก็จะได้ใคร่ครวญคิดอะไร? ก็ออกง่ายนิดหน่อย หากเรามีดาว 2 เกี่ยวข้อง แต่หากเรากลับทำตัวตรงข้ามกับดาว เช่น หงุดหงิดเลือดพล่าน ผลย่อมจะไม่เกิด
.
ในการพยากรณ์ของ “ดวงสุริยะเนตร” สามารถแจกแจงเลข 2 ไปเกี่ยวกับเรือนอะไร? แปลเหตุการณ์มีอะไร? บ้าง เช่นกำลังมีเคราะห์อะไร? เราก็หลบอารมณ์ สงบนิ่ง เท่ากับเราก็สามารถผ่านพ้นอันตรายไปได้ หากเลข 2 เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ดี? เราก็สงบสบาย มุ่งหน้าด้วยการทำใจเย็นๆ ยิ้มแย้มเท่ากับสร้างราศีบนใบหน้า ยามที่พบปะใคร? ย่อมได้มิตรดี ใคร? พบเรา เขาก็ยินดีคบค้า หากเราหน้าบึ้งๆ ใคร? เห็นเขาก็จะกลัวเรา เดินหน้าหนีเราไป สรุปดาวเลข 2 เราต้องยิ้มแย้มกับโลก สังคม ใจเราก็เป็นสุขแน่นอน ความสำเร็จก็ต้องเกิดแน่

หากอ้างอิงถึงเลข 1 ดาวพระอาทิตย์

ตามหลักพฤกษาชาตา (อ่านแบบแผนพฤกษาชาตา) จะพบว่า เลข 1 คือ “รากต้นไม้” แต่เราชอบเรียกว่า “รากแก้ว” ฟังแล้วเป็นมงคลหน่อย แม้จะเป็นประเภทดาวบาปพระเคราะห์ก็ตาม ย่อมให้โทษมากกว่าให้คุณตามกฎ แต่เราเองเป็นมนุษย์ปัญญาชน ย่อมรู้จักการ “หลบหลีกสิ่งที่มันจะบังเกิดผลร้ายก็ย่อมได้” โดยเฉพาะเราดูต้นไม้ซิดาวเลข 1 อาทิตย์อยู่ตรงรากของต้นไม้ เท่ากับรากต้นไม้มันอยู่ใต้โคนต้น ซึ่งก็คืออยู่ในดิน เว้นแต่ต้นกล้วยไม้ที่รากลอยฟ้า เราก็แปลง่ายๆว่า เราสามารถป้องกันหรือหลบหลีกได้มาก บางทีเราหากจะอ่านว่าเหตุร้ายมันกำลังเดินรี่มาหาเราแล้ว และเราจะเกิดชนกับมันหรือไง? ดาวเลข 1 โบราณกล่าวว่า “ทายเกียรติให้ทายเลข 1 อาทิตย์”

คำว่าเกียรติก็สรุปว่าคือ “ชื่อเสียง” นั่นเอง และมุมกลับ “ก็คือเสียชื่อ หรือ ชื่อเสียงเน่า?” อย่างดาว 1 อยู่ในตำแหน่งไม่ดีเราต้องวางตัวอย่างระมัดระวัง คำว่าจะเสียหาย เริ่มต้น ต้องหมายถึง “ชื่อเสียงก่อน” เราอาจจะปรับความเข้าใจ หรืออาจจะมีเหตุต้องต่อสู้ เพื่อหักล้างซึ่งกันและกัน เพื่อให้เราพ้นมลทิน

งานพยากรณ์ หรือหน้าที่ “หมอดู” นั้น จำเป็นจะต้องเรียนรู้ตัวดาวแต่ละตัวให้ลึกซึ้งจริงๆ ผู้สอนก็สอนหนัก เพื่อเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของดวงดาว ต่อไปเราต้องสอนเน้น “เรือนและการผสมเรือน” ล้วนเป็นเทคนิคทางพยากรณ์ทั้งสิ้น สมัยก่อนมองดูว่ายาก แต่เดี๋ยวนี้อาจจะเป็นได้ง่ายๆ เพราะเราเองมีความชำนาญมากๆ จึงทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องสะดวก ง่าย

ภาคทฤษฎีของ โหราศาสตร์พม่า ดูเหมือนจะสิ้นสุด ณ ตรงนี้.. ต่อไป คือภาคปฎิบัติ ที่เราจะต้องนำเอาศาสตร์ทุกๆ ศาสตร์ที่ว่าทั้งหมด มาใช้งาน แต่ก่อนอื่นขอให้ทุกท่านท่องจำความหมายทั้งหมดที่ให้ไห้ตั้งแต่ ตอนที่ 1-8 ให้ขึ้นใจก่อนนะคะ

ครั้งต่อไป แม่หมอ (ฝึกงาน) จะมาขยายความปริศนา คำใบจากภาพที่ทิ้งไว้ให้ในแต่ละตอนว่า... เขามีวิธีการนำไปใช้เช่นไรกันบ้าง ทำไมต้องเรียนรู้ท่องจำกันเยอะแยะขนาดนี้ (ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ขอย้ำว่าแค่..พื้นฐานเท่านั้น)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น