โดย......เณร อยู่นาน
ดวงชะตาเป็นดังนี้ ๑๖ สถิตราศีตุลย์ ๑ เป็นตนุเศษ ๔ พิจิก ๐ ธนู ๙ กุมภ์ ๕ มีน ๒ พฤษภ ๓ กรกฏ ๗๘ กันย์ สุภาพสตรีท่านนี้มาพบผมราว ๆ ปลายเดือนธันวาคม 2553 กว่าจะมาได้นัดไปนัดมาอยู่หลายเที่ยว กลัวจะมาไม่ถูก ทั้งที่ผมก็ได้แจ้งที่อยู่ของผมเอาไว้ชัดเจนแม้คนตาบอดก็มาถูก เพราะการจะไปไหนมาไหน ที่เราไม่เคยไปหรือไม่รู้จักเขาใช้ปากเป็นใบเบิกทางกันทั้งนั้น
ขอให้คุณคิดดู ว่าเขากลัวจนต้องจอดรถทิ้งไว้ที่มหาลัยเกษตร แล้วนั่งแท้กซี่ไปหาผมที่บ้านการเคหะร่มเกล้า ถ้าเป็นคนธรรมดาคงไม่มีใครเขาทำกัน นี่เธอคงต้องเป็นคนพิเศษนิดๆ ข้อมูลส่วนตัวของเธอบอกว่าเกิดวันพุธที่ 4 สิงหาคม 2514 เวลา 14.30 น.จังหวัดเกิดต้องตัดเวลาท้องถิ่น ประมาณ 26 นาที
พอทำดวงก็ออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละครับ เป็นดวงที่ทายยากทีเดียว ผมทายไปปลอบใจไป คือในส่วนที่ดีผมก็บอกว่าดีแต่ในจุดที่ไม่ดีว่าแต่พอท้วมๆ ขืนว่าเต็มกำลังมีหวังเธอกลับบ้านผูกคอตายแน่ แค่ขนาดย่อมเยาเธอยังบ่นอยากจะเลิกดู เพราะไม่เห็นมีอะไรดีเลยซักอย่าง โดยปกติแล้วผมจะบอกศิษย์เสมอว่าการจะเป็นโหรอาชีพ รับจ้างทายดวงชะตาไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนักหนา ทายถูกสัก 50% ก็พอ
คือ ในจำนวน 2 ข้อที่เราต้องทาย ทายให้ถูกข้อใดข้อหนึ่ง ก็เป็นโหรอาชีพได้ 2 เรื่องที่ว่า คือ ทายให้ถูกเรื่องอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งคือทายให้ถูกใจ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงทายให้ถูกเรื่องดีที่สุด เว้นแต่ข้อมูลวันเดือนปีเกิดไม่แน่นอน ลัคนาคาบเกี่ยว 2 ราศีบ้าง หรือบางทีข้อมูลส่วนตัวเป็นข้อมูลที่กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านยกเมฆให้มา
คือ ออกใบเกิดวันไหนก็เอาวันนั้นเป็นวันเกิด ถ้าแบบนี้ก็ต้องทายให้ถูกใจ คือ พูดแต่เรื่องดี ๆ เข้าไว้ เช่นเป็นผู้มีวาสนาสูง เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรม ใจบุญสุนทาน ในอนาคตกาลจะได้เป็นเจ้าขุนมูลนาย อะไรทำนองนี้ รับรองวันนั้นได้ค่าทิปแน่ แล้ววันหลังก็จะแวะเวียนเอาเงินมาให้เราอีก เพราะประทับใจการพยากรณ์ บังเอิญวันนั้นผมลืมหลักการข้อที่ 2 ไปเน้นแต่ข้อที่ 1 มาก
เธอเลยเครียด ความจริงคนเรานะครับ ควรต้องยอมรับความจริงของตนเอง ดีกว่าการนั่งรับฟังแต่คำหวานที่เป็นเท็จ มัวหลงระเริงไม่ได้ระวังตัว พอเคราะห์มาถึง ไม่ได้เตรียมหาทางออกไว้ เลยมีปัญหาแก้ไม่ตก
อย่างดวงนี้ ที่ผมทายเขายอมรับว่าถูกต้องทุกเรื่อง ทั้งในแต่ละเรื่องผมก็แนะทางออกไว้ให้อย่างดี เพื่อจะได้ลดความไม่ดีตามดวงชะตา ให้เบาบางลง สำหรับส่วนที่ว่าดีก็ให้เพิ่มความเพียรพยายาม ไม่ให้นั่งรอนอนรอโชคลาภหล่นมาจากฟ้า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะเสียโอกาสอันดีงามอย่างน่าเสียดาย
วันนั้นเรื่องแรกที่เอามาทายคือเรื่องที่เธอเกิดวันพุธ เมื่อเกิดวันพุธ ดาวอังคาร ๓ จะเป็นดาวกาลีตลอดกาลของเธอ ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก พอมาถึงลัคนาเมื่อไหร่ก็จะได้เรื่องเมื่อนั้น คืออุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย แต่ก็ไม่ถึงชีวิตเพราะอังคาร ๓ เดิม ในดวงไปเป็นนิจ ลดแรงชั่วร้ายลงไปได้บ้าง ทว่าดาวอังคาร ๓ ที่ว่า ปกติเราทายเรื่องความกล้าแข็งขยัน พอเป็นกาลีจะเสีย คือเหนื่อยมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้ม ก็เลยเบื่องานหรือเบื่อหน้าเจ้านายนั่นแหละ
เมื่อเป็นดาวเจ้าเรือนกะดุมพะ ก็ทายว่าใช้เงินเก่ง ไม่ชอบเก็บเงิน แบบนี้ต้องเป็นทรัพย์สิน เช่น ซื้อบ้านหรือที่ หรือของมีค่าอื่นที่ชอบจะดี และในฐานะที่เป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิทั้งของลัคนาและของตนุเศษ ถ้าได้คู่ป้ายแดงจะเดือดร้อน ต้องหาของเก่าใช้แล้ว แถมฐานะการเงินหรือหน้าที่การงานไม่ดีด้วย มาเป็นคู่ จึงจะพออยู่กันได้
ดาวเจ้าเรือนเพื่อนคือพฤหัสบดี ๕ ไปอยู่ในเรือนอริ และในเรือนสหัชชะก็มี มฤตยู ๐ คอยกัดกร่อน ทำให้มีเพื่อนน้อย แต่เพื่อนล้วนมีหน้าที่การงานดี ฐานะดีเพราะพฤหัสบดี ๕ ได้ตำแหน่งเกษตร ทว่าพึ่งเพื่อนไม่ได้ แถมบางคราว เพื่อนนั่นแหละเป็นศัตรูตัวฉกาจ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากเรือนอริเป็นเรือนที่พฤหัสบดี ๕ เป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือนนั่นเอง
ความจริงดาวพฤหัสบดี ๕ เอามาทายได้หลายเรื่อง เช่นเรื่องของความรู้ คุณธรรม ความน่าเกรงขาม (เดช) หัวหน้างานหรือเจ้านาย เพื่อน (สหัชชะ) และศัตรู (อริ)รวมทั้งบิดาด้วย พอต้องไปเป็นเกษตรในเรือนอริ หลายอย่างจึงเสียไปอย่างน่าเสียดาย เช่นไม่ลงรอยกับเจ้านาย หรือกับพ่อของตัวเอง มีเพื่อนเป็นศัตรู คุณธรรมบกพร่อง โชคดีที่บกพร่องไม่มากนัก เนื่องจากลัคนาไปอยู่ในราศีตุลย์ ซึ่งเป็นราศีแห่งความเที่ยงตรง มีศุกร์ ๖ คู่สมพลกุม อิทธิพลของความดีงามจึงเพิ่มขึ้นมาส่วนหนึ่ง
ทีนี้มาดูเรื่องอื่นกัน ดูกันที่ดาวเจ้าเรือนพันธุ ดาวเจ้าเรือนปุตตะ 2 ดาวนี่ถือว่าดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะดาวเจ้าเรือนปุตตะเป็นศรี ต้องมีบุตรหลานดี พอวินาสน์ ความดีที่ว่าดีนั้นก็ละลายหายไปอย่างน่าเสียดาย คือ ต้องต่างคนต่างอยู่นั่นเอง
เรื่องการงานดูที่ดาวเจ้าเรือนกรรมะ เป็นดาวจันทร์ ๒ คือ ดาวมนตรีตามทักษา และดาวเจ้าเรือนการงาน น่าจะดีเพราะเป็นมหาอุจจ์ แต่ก็มรณะลัคนา ดาวจันทร์ ๒ ยังหมายถึงแม่ด้วย แปลออกมาแล้ว เป็นคนขาดคนอุปถัมภ์ การงานมีปัญหาง่าย คือ ต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น ทั้งยังขัดแย้งกับแม่หรือไม่ได้อยู่กับแม่ด้วย
ดาวเจ้าเรือนศุภะเป็นพุธ ๔ บริวาร ไปอยู่หน้าลัคนา แต่เป็นเรือนกาลีเดิมของอังคาร ๓ ดังนั้นการพูดนั่นแหละต้องระวังอย่างมาก ต้องคิดก่อนพูดเสมอ ในฐานะเป็นดาวเจ้าเรือนศุภะ ก็หมายถึงการจะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ที่จะให้ราบรื่นอย่าพึงหวัง ต้องมีการปัดแข้งปัดขากัน กว่าจะได้อะไรมาก็ลิ้นห้อยนั่นเอง
แง่ของบริวารหรือลูกน้องที่ทำงานก็เข้าทำนองไม่ดีเช่นกัน ถ้าไว้ใจลูกน้องเกินไป จะมีโอกาสน้ำตาตกเพราะลูกน้อง เขาจะดีต่อเมื่อมีผลประโยชน์คุ้มเท่านั้น ทั้งหมดที่ว่ามาผมก็ได้ชี้แนวทางออกเอาไว้เกือบทุกเรื่อง แต่ผมก็ไม่ได้พูดทั้งหมดที่ผมเห็น โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ค่อยลงกันกับพ่อแม่ ผมเว้นไว้ เพื่อไม่ให้เธอเครียดเกินไป
ดังนั้นเรื่องดีในดวงนี้หรือในชีวิตของเธอคือ คือเรื่องของการต้องพึ่งพาตนเองทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ดังที่พระท่านว่าอัตตาหิอัตตะโนนาโถ ก่อนจบผมหยอดท้ายให้เธอรู้สึกว่า ในโลกนี้ยังมีซอกมุมที่น่าอยู่ ๆ บ้าง นั่น คือ ยามที่ดาวพฤหัสบดี ๕ ย้ายขึ้นราศีเมษ แต่ก็ต้องเป็นมนตรีจรก่อน เพราะตอนที่ทายยังเป็นกาลีจรอยู่ ถึงตอนนั้นเธอต้องพบคู่แน่นอน ถ้าไม่เอาคู่จะได้ลาภเงินทองของมีค่ามาแทน
เธอบอกว่าเธอจะไม่เอาลาภสัตว์ 2 เท้า แต่จะเอาเงิน ถ้าเป็นดวงผม ๆ ก็จะเลือกอย่างเธอเช่นกัน ต่อให้สวยเลิศเพริศพริ้งขนาดไหน ผมก็ไม่เอา ครับ...ขอให้ได้ในสิ่งที่ต้องการก็แล้วกันนะครับ
ปล. รูปดวงพยายามเขียนตามคำบรรยายในบทความ (ในบทความเดิมไม่มีรูปดวง)
หมายเหตุ: เพื่อเก็บรักษาและเผยแพร่บทความ ที่อาจารย์ได้เคยเขียนไว้ เนื่องจาก เวลานี้ Website: www.10luckastro.com ของอาจารย์ได้หายไปแล้ว ศิษย์รุ่นหลังๆ จะได้มีตัวอย่างดวงไว้ศึกษาหาความรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น